Bates Motel ซีรีส์แนวฆาตกรรมโรคจิต
Bates Motel ซีรีส์แนวฆาตกรรมโรคจิต
วันนี้อยากจะพาทุกคนมาแนะนำซีรีส์ฝรั่งน่าดู อย่าง “Bates Motel” เป็นอีกเรื่องที่ไม่อยากให้ทุกคนพลาด เนื่องจากซีรีส์ฝรั่งน่าดูเรื่องดังกล่าวกลายเป็นกระแสโด่งดังเมื่อหลายปีที่ผ่านมา จนมีการผลิตต่อเนื่องเป็นจำนวนหลายซีซั่นเลยทีเดียว โดยสำหรับซีรีส์เรื่องนี้จะเป็นแนวฆาตกรรมโรคจิต
เรียกได้ว่าโหดสยองเลือดสาด จนทำเอาหลายคนนอนไม่หลับไปตามกัน แน่นอนว่าหลังจากออกอากาศเป็นที่เรียบร้อยแล้ว มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ออกมาในทางชื่นชมค่อนข้างเยอะ ส่งผลให้มีการปล่อยซีซั่น 2 จนถึงซีซั่น 5 ออกมาภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว
ทางผู้สร้างสามารถทาบทามนักแสดงฮอลลีวูดระดับตัวแม่ อย่าง “วีรา ฟาร์มิกา” มาร่วมเป็นนักแสดงในซีรีส์เรื่องนี้ด้วย ซึ่งเชื่อว่าคนส่วนใหญ่น่าจะรู้จักเธอในบทบาทของนักปราบผีฝีมือฉกาจจากภาพยนตร์ไตรภาค “เดอะคอนเจอริ่ง คนเรียกผี” เสริมทัพด้วยนักแสดงดาวรุ่ง “เฟรดดี ไฮร์มอร์” มารับบทบาทสุดท้าทายอีกด้วย
โดยนักแสดงหลักทั้งสองคนสามารถโชว์ศักยภาพทางด้านการแสดงออกมาได้อย่างเต็มที่ จนผู้ชมต่างประทับใจในฝีมือการแสดงของพวกเขา ส่งผลให้ “เฟรดดี ไฮร์มอร์” กลายเป็นที่รู้จักเป็นวงกว้าง แถมมีผลงานในการแสดงอื่นๆ ตามมาอีกมากมาย เช่นเดียวกับ “วีรา ฟาร์มิกา” ยิ่งทวีความโดดเด่นเพิ่มขึ้นไปอีกหลายเท่าตัว
สำหรับซีรีส์ฝรั่งน่าดู จะกล่าวถึงจุดเริ่มต้นอันน่าสยดสยองของโรงแรม โดยเป็นเรื่องราวของ “นอร์ม่า เบทส์” แม่ผู้เลี้ยงดูลูกชาย “นอร์แมน เบทส์” มาด้วยความทะนุถนอม พวกเขาหนีบางสิ่งบางอย่างมาเปิดกิจการโรงแรม หลังจากนั้นทางด้านของ “นอร์แมน เบทส์” เริ่มมีอาการแปลกๆ อย่างต่อเนื่อง บางครั้งเขากลายเป็นคนอื่น
ซึ่งเขาไม่สามารถควบคุมสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวของเขาได้ แน่นอนว่าแม่ของเขาพยายามปกป้องลูกชายแบบสุดความสามารถ และไม่ยอมรับว่าลูกชายของเขามีอาการประหลาด แต่ยิ่งปกป้องลูกชายมากเท่าไหร่ เหมือนจะเป็นการทำให้สถานการณ์เลวร้ายยิ่งขึ้น กระทั่ง “นอร์แมน เบทส์” ลูกชายของเขากลายเป็นพวกจิตเภทในที่สุด
มีความยาวทั้งหมด 5 ซีซั่นด้วยกัน โดยเป็นที่แน่ชัดแล้วว่าซีซั่น 5 จะเป็นซีซั่นสุดท้ายของซีรีส์ไตรภาคเรื่องดังกล่าว หลังจากการรับชมซีซั่น 1 จนถึงซีซั่น 5 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทุกคนจะเห็นได้ถึงพัฒนาการของตัวละคร โดยเฉพาะความสัมพันธ์ของแม่และลูกที่เริ่มจะเปลี่ยนไปจากที่หลายคนคุ้นเคย
แม้ว่าจะผลิตออกมาเป็นจำนวนกว่า 5 ซีซั่น แต่ไม่ได้ทำให้รู้สึกว่ามีความยืดเยื้อเลยแม้แต่น้อย ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะทางผู้เขียนบทมีการวางแผนในการสร้างภาคต่อมาเป็นอย่างดี จนทำให้เรื่องราวของทุกซีซั่นมีความต่อเนื่องกันอย่างสมบูรณ์แบบ