Saving Private Ryan

Saving Private Ryan หนังสงครามที่ดีที่สุดตลอดกาล

Saving Private Ryan หนังสงครามที่ดีที่สุดตลอดกาล

ถ้าพูดถึงภาพยนต์แนวสงครามที่ดีที่สุดตลอดกาลนั้น หนึ่งในชื่อภาพยนตร์ที่จะออกมาอย่างแน่นอนก็คือ Saving Private Ryan ซึ่งในปัจจุบันนี้เป็นหนังสงคราม ที่หารับชมได้อย่างสะดวกสบายแล้วใน Netflix ภาพยนตร์เรื่องนี้ออกฉายมาตั้งแต่ปี 1998 แต่มันยังคงเป็นที่พูดถึงมาจนถึงในปัจจุบัน นั่นก็เป็นเพราะว่าผู้กำกับอย่าง Steven Spielberg นั้นสามารถสร้างสรรค์ผลงานชิ้นนี้ออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม นักแสดงนำก็ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่ประกอบไปด้วยทั้งทอม แฮงค์และแมท เดม่อน หากใครชื่นชอบภาพยนตร์แนวสงครามคุณไม่ควรพลาดภาพยนตร์เรื่องนี้โดยเด็ดขาด

เรื่องราวในภาพยนตร์เรื่อง

เป็นหนังสงคราม ที่จะพาคุณไปยังช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 กลุ่มทหารสัมพันธมิตรนั้นได้ทำการบุกขึ้นหาดโอมาฮ่าในวันที่ 6 มิถุนายน 1994 หรือที่เรารู้จักกันในชื่อยุทธการ D-day กองทัพสัมพันธมิตรโดยเฉพาะอเมริกานั้นต้องเผชิญกับความสูญเสียเป็นอย่างมากเนื่องจากทางทหารนาซีนั้นได้เตรียมป้อมปืนใหญ่ไว้ยิงทหารทุกคนที่ลงจากเรือขึ้นมายังชายหาด พวกเขาต้องสูญเสียทหารไปเป็นจำนวนมาก ทหารนับร้อยนับพันได้รับบาดเจ็บ บางคนก็ถึงขั้นพิการ หนึ่งในผู้นำกองทหารที่ต้องพบกับความสูญเสียผู้ใต้บังคับบัญชาในครั้งนี้ก็คือร้อยเอกจอห์น มิลเลอร์ แม้ว่ายุทธการยกพลขึ้นบกในครั้งนี้จะประสบความสำเร็จ

แต่ตระกูลไรอันที่มีลูกชาย 4 คนและทุกคนต่างก็เข้าร่วมภารกิจดังกล่าวได้สูญเสียลูกชายไปถึง 3 คน คนที่ยังรอดเพียงคนเดียวนั้นคือลูกชายคนสุดท้องที่มีชื่อว่าพลทหารเจมส์ กองทัพสหรัฐได้ทำการส่งจดหมายไปยังคุณนายไรอันเพื่อแสดงความเสียใจ แต่เสมียนผู้พิมพ์จดหมายนั้นได้พบว่าพลทหารเจมส์กำลังตกอยู่ในบริเวณแนวข้าศึกทำให้ไม่ทราบชะตากรรมที่แน่ชัดว่าเขารอดตายไปแล้ว เสมียนผู้นี้ได้รายงานเหตุการณ์ทั้งหมดให้กับผู้บังคับบัญชา ผู้บังคับบัญชาจึงได้ออกคำสั่งให้กองกำลังของร้อยเอกจอห์นบุกเข้าไปยังแนวหน้าเพื่อช่วยเหลือพลทหารเจมส์ กลายเป็นคำถามมากมายสำหรับกองกำลังที่รับภารกิจว่าเพราะเหตุใดจึงต้องนำเอาชีวิตคนถึง 7 คนไปเสี่ยงเพื่อช่วยชีวิตคนเพียงแค่คนเดียว

ความรู้สึกหลังรับชมภาพยนตร์

Saving Private Ryan เป็นหนังสงครามที่คนส่วนใหญ่มักจะพูดถึงฉากยกพลขึ้นบกแบบ long Take ความยาวกว่า 20 นาทีทั้งที่ฉากนี้ความจริงแล้วไม่ได้มีส่วนสำคัญกับเนื้อเรื่องหลักเลยแม้แต่น้อย แต่ด้วยความสมจริงของฉากดังกล่าวที่สร้างความสะเทือนใจและความหดหู่ให้กับผู้รับชมได้เป็นอย่างดีทำให้ผู้คนพูดถึงแต่ฉากดังกล่าว แต่ความจริงแล้วยังมีอีกหรือประเด็นที่น่าสนใจก็คือการที่ผู้บังคับบัญชาตัดสินใจกองกำลังทหารกว่า 7 คนเดินทางเข้าไปยังแนวหน้าที่เต็มไปด้วยความอันตรายเพื่อช่วยพลทหารเพียงแค่คนเดียวนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้องหรือไม่ ระหว่างการทำภารกิจเราจะยังคงตั้งคำถามนี้อยู่ในหัวตลอดเวลา กว่าเราจะได้รับคำตอบเรื่องราวก็ดำเนินมาจนถึงองค์สุดท้ายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว


ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *