The King Eternal Monarch
The King Eternal Monarch
คือเรื่องราวของโลกคู่ขนานที่ทำให้เราเห็น ห้วงเวลานั้นเดินไปพร้อม ๆ กัน เปิดเรื่องมาที่อนาคตก่อนเรื่องจริงจะดำเนินไปในช่วงหลัง เราจะได้พบกับ อีริม ชายปริศนาอายุ 70 ปี เขากำลังเล่าเรื่องตนเองว่าเขาคือคนที่มาจากอีกโลกหนึ่งของช่วงปีจักรวรรดิเกาหลี 1994 โดยเขาต้องแย่งชิงขลุ่ยวิเศษ “มันพาชิกช็อก” ซึ่งมีพลังอำนาจหลายประการ แถมยังเป็นสมบัติแห่งชาติของจักรวรรดิเกาหลีของโลกแห่งนี้อีกด้วย ทำให้เขาต้องสังหารน้องชายผู้ครองบัลลังค์พร้อมกับหลานชายอย่าง อีกน พระเอกของเรื่องเพื่อให้ได้ของสิ่งนี้มา แต่แผนทุกอย่างกลับพังลงเมื่อชายลึกลับคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้น และมาช่วยชีวิต อีกน เอาไว้ได้ อีริม จึงต้องหนีไปและได้ข้ามประตูมิติจากในป่าไผ่มายังโลกปกติ ซึ่งเปลี่ยนเป็นการปกครองระบบสาธารณะรัฐอันมีประธานาธิบดีเป็นประมุข เขาต้องปรับตัวและเจอกับเรื่องราวไม่คุ้นเคย ซึ่งในเวลาต่อมา อีกน ได้เสด็จขึ้นครองราชย์และพยายามตามหาหญิงสาวปริศนาที่เคยมาช่วยเขาในวัยเด็ก จนวันหนึ่งอีกอนก็ได้พบประตูมิติในป่าไผ่และข้ามประตูมาพร้อมกับม้าขาวคู่ใจ จนมาเจอกับ “จองแทอึล” หญิงสาวที่เขาตามหามาตลอดชีวิต
หลายคนอาจจะคิดว่า เป็นเหมือนซีรีส์โรแมนติกทั่วๆไป แต่ความจริงแล้วกลับมาพร้อมกับบความตลกของบทเจ้าชายม้าขาวหลงยุคที่ยังติดวางมาดไว้ตัวเสมอ ทำให้เราขำเมื่อเขาต้องมาอยู่ในโลกปัจจุบัน ทำให้มีความกล่มกล่อมดูได้เพลินไม่น่าเบื่อ ด้วยความที่เรื่องนี้มีความเป็นไซไฟสูง ทำให้ CG แฟนตาซีในฉากจัดเต็มจนทำให้ดูเติมเต็มอารมณ์ภายในเรื่อง เสริมด้วยดนตรีประกอบอลังการที่เข้ากับเรื่องอย่างยิ่ง รวมถึงพร๊อบหรือของวิเศษต่างๆ สามารถออกแบบมาได้สวยงามเหมาะกับความเป็นไซไฟ
ในแง่ของนักแสดงต้องบอกเลยว่านี่คือการกลับมาของ Lee Min-Ho นายแบบดาราหนุ่มรูปหล่อชื่อเสียงโด่งดังทั้งในเกาหลี จีน รวมถึงเอเชียที่สมกับการรอคอยมาก ยังคงความหล่อไว้ได้อย่างครบถ้วน ยิ่งมาอยู่ในบทบาทเจ้าชาย ทำให้ให้สาวๆ ได้ฟินกันจนกลั้นเขินไว้ไม่อยู่แน่นอน แต่สำหรับนางเอกสาวอย่าง Kim Go-Eun หลายคนอาจจะรู้ว่าออร่าของเธอยังเข้ากับพระเอกได้ไม่มากนัก ทำให้บางครั้งเธอดรอปไม่โดดเด่นเอาเสียเลย
แม้ว่าเนื้อเรื่องในช่วงแรกของ The King: Eternal Monarch ดูจะวกไปวนมาในช่วงแรก จุดเชื่อมโยงอาจจะไม่ลงตัวเท่าไร แต่หากดูโดยรวมแล้วถือว่าทำได้ดี ยิ่งหากคุณชอบความไซไฟแฟนตาซีอยู่แล้วไม่ควรพลาด
